พวกเราส่วนใหญ่คงเคยได้ยินหรือต้องใช้คำว่า โดนเท ถูกเท หรือใกล้เคียงกับภาษาอังกฤษคำว่า Ghosting คือเมื่อคนในความสัมพันธ์ยุติความสัมพันธ์โดยไม่มีคำอธิบาย ไม่มีการติดต่อบอกกล่าวอะไรเลย มีแต่ความเงียบจากผู้ชายหรือผู้หญิงคนที่คุณไปเดทหรือเคยเดทด้วย พวกเขาหายไปเหมือนผีเลยค่ะ แบบนี้เรียกโดนเทหรือ Ghosting ค่ะ

การโดนเท หรือถูกหลอก เป็นเรื่องปกติธรรมดากว่าที่คนส่วนใหญ่คิด เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีที่เป็นเครื่องมือในความสัมพันธ์ของคนเราทุกวันนี้ค่ะ พวกเขาอาจจหายไปแบบเงียบๆไม่ตอบข้อความกลับหรือบอกอะไรกับคุณเลย
ทำไมคุณถึงโดนเท ทำไมคนเหล่านั้นถึงเลือกที่จะเท เลือกที่จะไม่บอกอะไรคุณเลย
“ฉันทำอะไรผิดหรอ?” เป็นคำถามแรกหลังจากโดนเทของหลายๆคน
สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการโดนเท มันเป็นปัญหาของคนเทไม่ใช่ปัญหาของคุณค่ะ มันแสดงถึงการขาดอะไรบางอย่างหรือจุดอ่อนของพวกเขาค่ะ แต่น่าเสียดายที่หลายคนคิดว่าเป็นปัญหาของตัวเอง พอโดนเทก็ชอบมาคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดไปถึงทำให้เขาเงียบหายไป โทษตัวเองต่างๆนาๆว่าตัวคุณเองเป็นคนทำเรื่องเหล่านั้น ทั้งๆที่เรื่องจริงแล้วมันไม่ใช่เลยค่ะ
ลองนึกย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่มีคนเทคุณครั้งสุดท้าย เป็นยังไงบ้าง
บางทีอาจเป็นระหว่างช่วงเวลาการหาคู่ออนไลน์ทั่วไปหรือหลังจากออกเดทกันสองสามครั้ง บางทีคุณอาจจะเพิ่งรู้จักเขา แล้วพวกเขาก็หายไป หรือเป็นเพื่อนบางคนของคุณ ที่หลีกเลี่ยงคุณหลังจากการพูดกับคุณในเรื่องที่ลำบากใจ
คนเราในปัจจุบันนี้ใช้เวลากับสื่อโชเชียลออนไลน์เป็นเวลานาน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ถือเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ความสัมพันธ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและทำให้คนเทกันง่ายขึ้น แม้แต่ตอนที่คุณนัดเพื่อนคุณก็ยังเคยเทเพื่อนเลย จริงไหมคะ
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณโดนเท
การโดนเทสร้างความเสียหายให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ผู้โดนเทถูกทิ้งให้รู้สึกเจ็บ โกรธ และรู้สึกว่าโดนถูกปฏิเสธ แต่คนเทก็ทิ้งความรู้สึกที่ลำบากใจไว้เช่นกัน ต้องแบกรับความรู้สึกผิดและละอายใจที่ได้ปฏิบัติต่อคนอื่นแบบไม่ดี
ผลกระทบที่ตามมาอาจทำให้คุณไม่มีความเชื่อในความรักหรือไม่เชื่อในความสัมพันธ์ครั้งใหม่
การโดนเทหรือการเทคนอื่นสร้างนิสัยความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพจิตของทั้งสองฝ่าย
สุดท้าย ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือการเทหรือโดนเท จะสร้างนิสัยความสัมพันธ์ที่ไม่ดี เมื่อความขัดแย้งและความรู้สึกไม่สบายใจ วิธีทั่วไปในการหยุดการโดนเท ที่หลายคนกล่าวไว้คือการรักษาสิ่งต่างๆ ให้ “สมบูรณ์แบบ” แต่บางครั้งคนเราก็ไม่สามารถทำให้ความสัมพันธ์สมบูรณ์แบบได้เสมอไปนะคะ
ความรู้สึกที่ผิดพลาดในความสัมพันธ์นี้สามารถนำไปสู่การโกหก การหลอกลวง และความก้าวร้าวแบบนิ่งเฉย สิ่งนี้ทำให้การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเป็นเรื่องยาก มันป้องกันการสร้างมิตรภาพที่แท้จริงและนำไปสู่การการรู้จักกันแบบแค่ผิวเผินค่ะ
1.เลิกโทษตัวเองว่าตัวเองผิด
หลังจากที่ใครบางคนหายตัวไปอย่างกะทันหัน มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่คุณจะไม่รู้สึกเสียใจ และอับอาย ท้ายที่สุด คุณก็พร้อมเสี่ยงเพื่อจะรักษาความสัมพันธ์ อยากมีความสัมพันธ์และผลตอบรับกลับมามันกลับไม่ได้เป็นในแบบที่คุณตั้งใจไว้ แม้ว่าการโดนเท ปัญหามันอาจจะไม่เกี่ยวกับคุณ มันเกี่ยวกับพวกเขาต่างหากค่ะ
คุณหาสาเหตุไม่เจอและไม่มีคำอธิบาย คุณจึงอาจโทษตัวเองได้ คุณอาจสร้างกำแพงเพิ่มขึ้น เพื่อไม่ให้ตัวเองเจ็บอีกในอนาคต คุณอาจจะบอกเพื่อน ๆ ว่าคุณจะหยุดออกเดทแล้ว เพราะการโดนเทในครั้งก่อน
ตอนนี้เป็นเวลาที่คุณต้องจัดการกับความรู้สึกโทษตัวเองใหม่หมด คุณต้องเมตตาตัวเอง และพักผ่อนบ้าง คุณไม่ต้องโทษคนที่เดินจากไปโดยไม่หันกลับมา และก็ไม่ต้องโทษตัวเอง และไม่ใช่ความผิดของคุณที่อีกฝ่ายไม่สามารถบอกความจริงกับคุณได้ ว่าทำไมเขาถึงเทคุณ
2.ดูแลสุขภาพของคุณ
การดูแลสุขภาพเป็นทุกอย่างเมื่อคุณผ่านช่วงเวลาที่ไม่ดี ดังนั้น หากคุณรู้สึกว่าการสูญเสียครั้งนี้ทำให้คุณดื่มมากเกินไป ทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ หรืออดนอน ให้หาเวลาดูแลสุขภาพ ซึ่งอาจรวมถึงขั้นตอนง่ายๆ เช่น ออกกำลังกายเบาๆ นั่งสมาธิ หรือทำอาหารดีๆ ให้ตัวเอง หากคุณได้ปล่อยให้คนเทเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตของคุณ เพราะเขาคนนั้นได้หายไปแล้ว มันเป็นคำตอบแล้วค่ะว่าคุณไม่ควรไปเสียสุขภาพจิตหรือคิดถึงเขา
3.ให้เวลาตัวเองเสียใจ
คุณต้องการ Move On แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องหลีกเลี่ยงความรู้สึกเศร้า ความโกรธ คุณควรที่จะให้เวลากับตัวเองในการประมวลผลสิ่งที่เกิดขึ้นและจำไว้ว่าแม้ว่าความสัมพันธ์จะเป็นแบบสบายๆ แบบสั้นๆ หรือแบบออนไลน์ แต่นั่นแหล่ะค่ะคุณต้องให้เวลากับตัวเองด้วยค่ะ
4.เลิกคิดว่าทำไมเขาถึงเทคุณ ไม่ต้องหาบทสรุปไปทุกเรื่องหรอกค่ะ
แม้ว่าการยอมรับอาจเป็นเรื่องเจ็บปวด แต่ความจริงก็คือเขาจะไม่ติดต่อคุณอีกหรือขอโทษหรืออธิบาย การเงียบหายไปเป็นคำตอบว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะคุยหรือให้คำตอบคุณใดใดทั้งสิ้น
ด้วยเหตุผลนี้ คุณอาจพบว่าคุณปิดตัวเองจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง คุณอาจจะมีการเขียนจดหมายถึงความรู้สึกของคุณ (แต่ไม่ได้ส่งไป) คุณควรที่จะทำสิ่งต่อไปนี้อย่างจริงจัง เช่น ลบข้อความทั้งหมดในแอปโซเชียลมีเดีย หรือเพียงแค่ค่อยๆ พยายามให้อภัยพวกเขาเถอะค่ะ
6.พาตัวเองสู่การเข้าสังคมหรือการการหาอะไรใหม่ๆ
การโดนเททำให้เรารู้สึกถูกเหยียดหยาม หรือทำให้รู้สึกหมดศรัทธาต่อตัวคุณเอง คุณหาวิธีที่จะไม่คิดถึงเรื่องของการถูกทิ้ง ถูกเท ไม่ว่าจะเป็นการพบปะเพื่อนเก่าเพื่อดื่มกาแฟ ไปคาเฟ่หรือโทรหาคนในครอบครัวที่ไว้ใจได้ สิ่งสำคัญคือต้องเตือนตัวเองว่าคุณเป็นที่รักและอาจจะมีบางคนที่ไม่เคยฝันว่าจะหายตัวไปจากคุณ เขาอาจจะหายไปได้ มันเป็นธรรมชาติของชีวิตของทุกคนค่ะ
และถ้าคุณรู้สึกว่าการเข้าสังคมมันไม่ปลอดภัยสำหรับคุณ คุณก็อาจมองหาการสร้างและพัฒนาเครือข่ายใหม่ๆ หรือเพื่อนใหม่ๆ ผ่านบางชุมชนที่คุณเข้าร่วมได้ ไม่ว่าจะทางออนไลน์หรือแถวบ้านของคุณ ซึ่งมีความสนใจ ความเชื่อ หรือประสบการณ์ที่คล้ายกันกับคุณได้ค่ะ
7.พบหมอหรือนักจิตวิทยา
หากคุณรู้สึกว่าการถูกเทหรือการถูกทิ้ง ส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดี ความสัมพันธ์ หรือคุณกำลังใช้ชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมาน การบำบัดหรือการพบนักจิตวิทยาอาจช่วยให้คุณหาทางผ่านมันไปได้ค่ะ
